ผิวที่มีแนวโน้มเป็นสิวง่าย เป็นปัญหาใหญ่อย่างหนึ่งของสาวๆ ที่ทำให้เกิดความไม่มั่นใจในหลายๆ โอกาส ถึงเวลาหรือยังที่จะเปลี่ยนแปลง คุณอาจเคยลองวิธีการที่หลากหลาย ตั้งแต่การใช้ยาแต้มสิวจนถึงการใช้ยาต่างๆ แต่อาการสิวยังไม่ดีขึ้น อย่าเพิ่งถอดใจ คุณสามารถลองเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารสัก 7 วัน เพื่อดีท็อกซ์ร่างกายและเคลียร์สิว และนี่คือแนวทางการรับประทานอาหารเพื่อ ดีท็อกซ์ผิว สำหรับคุณ
งดน้ำตาลและแป้งขัดสี
จากข้อมูลที่เผยแพร่ในวารสาร American Journal of Clinical Nutrition เมื่อเดือนกรกฎาคม 2007 น้ำตาลและแป้งฟอกสีมีปริมาณของอินซูลินอยู่สูง ซึ่งกระตุ้นปฏิกิริยาของฮอร์โมนที่ซับซ้อน และทำให้เกิดสิวได้ คุณควรพยายามงดน้ำตาลและแป้งฟอกสีในทุกรูปแบบ อาหารจำพวก น้ำอัดลม น้ำผลไม้ กาแฟใส่น้ำตาล ขนมปังขัดสี ซีเรียล ขนมหวาน กราโนลา คุ๊กกี้และเบเกอรี่ต่างๆ
งดผลิตภัณฑ์จากนม
เนื่องจากการทำให้ปริมาณของ IGF-1 ที่มีโครงสร้างคล้ายอินซูลินในกระแสเลือด (ซึ่งกระตุ้นการเกิดสิว) มีความเข้มข้นมากขึ้น ผลิตภัณฑ์จากนมจึงถือเป็นศัตรูของผิวที่ปราศจากสิว ดังนั้น ควรงดหรือลดผลิตภัณฑ์จากนมทุกรูปแบบเป็นเวลาเจ็ดวัน ในระหว่างการดีท็อกซ์ คุณสามารถหาแหล่งทดแทนแคลเซียมได้จากผักใบเขียว ปลากระป๋อง และถั่วอัลมอนด์ ควรระลึกไว้ว่านมแต่งรส เวย์โปรตีน สมูทตี้ โปรตีนเชค ไอศกรีม โยเกิร์ต และชีส ล้วนเป็นปัจจัยกระตุ้นการเกิดสิว
อัตราส่วนของโอเมก้า
โอเมก้า 6 และโอเมก้า 3 เป็นไขมันที่สำคัญต่อร่างกาย แต่อัตราส่วนของโอเมก้าทั้งสองชนิดที่สูง สามารถเป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้ ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงน้ำมันจากพืชที่มีโอเมก้า 6 สูง เช่น น้ำมันข้าวโพด น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันจากถั่ว และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากน้ำมันประเภทนี้ ควรรับประทานอาหารประเภทปลาที่มีโอเมก้า 3 เพื่อทดแทนอัตราส่วนของกรดไขมัน 6 และ 3 ในร่างกาย
กินอะไรทดแทนดี?
ระหว่างการดีท็อกซ์เพื่อรักษาสิว คุณต้องหลีกเลี่ยงอาหารหลายประเภท อย่างไรก็ตาม อย่ากังวลว่าจะได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน แท้จริงแล้ว มีผักหลายประเภทที่อุดมไปด้วยสารอาหาร เช่น บร็อคโคลี หัวหอม เห็ด มะเขือเทศ และกระหล่ำดอก รวมถึงสัตว์ปีก และไข่ หรือปลา ซึ่งเป็นแหล่งโปรตีน คุณควรรับประทานน้ำมันจากมะพร้าว อะโวคาโด หรือมะกอก คุณควรดื่มน้ำมากๆ หรือดื่มน้ำผลไม้ที่ช่วยกระบวนการดีทอกซ์สำหรับการรักษาสิว
หลังจากการดีท็อกซ์
คุณสามารถกลับมารับประทานอาหารประเภทที่คุณงดหลังจากการดีท็อกซ์ได้ อย่างไรก็ตาม ไม่ควรกลับไปรับประทานอาหารทุกประเภทในครั้งเดียว แต่กลับมารับประทานทีละประเภท และค้นหาดูว่าอาหารประเภทไหนที่กระตุ้นการเกิดสิวของคุณ
โพรไบโอติก (Probiotic) คือ แบคทีเรียชนิดดีที่อยู่ในร่างกาย ชื่อที่หลายคนอาจคุ้นเคยกันดีของโพรไบโอติก ก็คือ “แล็กโทบาซิลลัส” ที่อยู่ในนมเปรี้ยวหรือโยเกิร์ตนั่นเอง แล็กโตบาซิลัสก็คือโพรไบโอติกชนิดหนึ่งที่ช่วยในการย่อยอาหาร ประโยชน์ของโพรไบโอติกนอกจากเกี่ยวกับระบบย่อยอาหารแล้ว ยังช่วยทำให้ลำไส้แข็งแรง ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย แล้วรู้หรือไม่ว่า โพรไบโอติก รักษาสิว ได้ด้วยนะ
โพรไบโอติกคืออะไร
ร่างกายของเราจะมีแบคทีเรียชนิดดีและแบคทีเรียที่ไม่ดีอาศัยอยู่ โพรไบโอติก คือ แบคทีเรียชนิดดีที่อยู่ในร่างกายโดยเฉพาะในระบบย่อยอาหาร โพรไบโอติกมีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย เช่น ช่วยทำให้ลำไส้แข็งแรง ช่วยลดแบคทีเรียที่ไม่ดี ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ปรับสมดุลให้ระบบย่อยอาหาร รวมถึงช่วยทำให้ผิวดีขึ้นด้วย
หากจำนวนโพรไบโอติกในร่างกายมีน้อย จะทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ไม่ค่อยดีจนทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น ท้องผูกท้องเสีย หรือท้องอืด โพรไบโอติดยังส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน หากรู้สึกว่าร่างกายอ่อนแอ เหนื่อยง่าย เป็นหวัดบ่อย หรือแม้กระทั่งมีปัญหาเกี่ยวกับผิวหนัง อาจเป็นสัญญาณว่า คุณจะต้องเพิ่มจำนวนแบคทีเรียชนิดดีอย่างโพรไบโอติกให้แก่ร่างกายแล้ว
โพรไบโอติก รักษาสิว คืออะไร
งานวิจัยของ Robert H. Siver นายแพทย์จากโรงพยาบาล Union Memorial ในเมืองบอลทิมอร์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้ให้คนไข้ที่มีปัญหาสิวจำนวน 300 คนกินโพรไบโอติก 2 ชนิด คือแล็กโทบาซิลลัส แอซิโตฟิลัส (Lactobacillus acidophilus) กับแล็กโทบาซิลลัส บัลกาลิคัส (Lactobacillus bulgaricus)
ผลการทดลองพบว่า 80% ของผู้ที่เป็นสิวมีอาการดีขึ้น อีกงานวิจัยหนึ่งที่สอดคล้องกันคืองานวิจัยจากประเทศอิตาลี ที่ให้ผู้ที่เป็นสิวกินโพรไบโอติก ชนิดแอล. แอซิโตฟิลัส (L. acidophilus) และบี. บิฟิตัม (B. bifidum) ปริมาณ 250 มิลลิกรัม ผลการวิจัยพบว่าคนที่เป็นสิวมีอาการดีขึ้นอย่างสังเกตเห็นได้ที่เป็นแบบนี้เนื่องจากโพรไบโอติกนั้นช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งส่งผลต่ออาการอักเสบที่เป็นหนึ่งในสาเหตุของการเกิดสิว
เมื่อร่างกายได้รับโพรไบโอติก ทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันดีขึ้น อาการอักเสบลดลง ส่งผลทำให้คนที่เป็นสิวมีผิวหน้าดีขึ้น นอกจากนี้ด้วยความที่โพรไบโอติกเป็นแบคทีเรียที่ดี ส่วนแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิวนั้นเป็นแบคทีเรียที่ไม่ดี การเพิ่มจำนวนโพรไบโอติกในร่างกายจึงทำให้ช่วยลดจำนวนแบคทีเรียที่ไม่ดี ซึ่งทำให้สิวลดลงด้วย
วิธีใช้โพรไบโอติกรักษาสิว
หากใครที่ลองมาทุกวิธีแล้วแต่ก็ยังมีสิวอยู่ อยากให้ลองดูวิธีการรักษาจากระบบภายในร่างกาย บางทีสาเหตุที่ทำให้สิวไม่หายอาจเป็นเพราะร่างกายอ่อนแอ ระบบย่อยอาหารและระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ไม่ดี สิวเลยไม่หายซักที วิธีใช้โพรไบโอติกช่วยในการรักษาสิวจึงอาจเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ
การเพิ่มโพรไบโอติกในร่างกายสามารถทำได้ง่ายๆด้วยการกินอาหารที่มีโพรไบโอติก ได้แก่ โยเกิร์ต ซุปมิโซะ น้ำเต้าหู้ กิมจิ หรือในพวกของดองเช่น แตงกวาดอง กะหล่ำปลีดอง แต่การกินอาหารเหล่านี้อาจไม่ได้เพิ่มแค่โพรไบโอติก แต่อาจเพิ่มสารอาหารที่ไม่ดีต่อร่างกายมาด้วย เช่น อาหารที่มีโซเดียมมากเกินไป ดังนั้นจึงควรกินในปริมาณที่พอดี ไม่กินเยอะเกินไปจนเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
ส่วนโพรไบโอติกจากอาหารเสริมในปัจจุบัน องค์กรอาหารและยาของประเทศสหรัฐอเมริกา (FDA) จัดให้โพรไบโอติกเป็นอาหาร ไม่ใช่ยา บริษัทที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมโพรไบโอติกก็ไม่ได้ระบุอย่างชัดเจนว่า ปลอดภัยหรือได้ผลดีกับร่างกาย และถึงแม้ว่าตอนนี้คนส่วนใหญ่ที่กินอาหารเสริมโพรไบโอติกจะไม่เป็นอะไร แต่ก็ไม่ได้รับประกันว่าโพรไบโอติกจะปลอดภัยกับทุกคน
บางคนเกิดอาการแพ้โพรไบโอติกจนสิวขึ้นหนักกว่าเดิมก็มี ดังนั้นวิธีที่ปลอดภัยที่สุดในการซื้ออาหารเสริมโพรไบโอติกมากิน คือ ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญว่าควรกินหรือไม่ และควรกินในปริมาณเท่าใด และศึกษาข้อมูลรวมถึงผลข้างเคียงเพื่อความปลอดภัยก่อนรับประทาน